i-PRO โซลูชันกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยสูงสุดและประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี Petrochemical Complex

อุตสาหกรรมปิโตรเคมีคือรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงจากการเกิดเพลิงไหม้, การระเบิด, หรือการรั่วไหลของสารเคมี ระบบรักษาความปลอดภัยจึงไม่ใช่แค่การป้องกันการโจรกรรม แต่คือการป้องกันภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้ การใช้ระบบกล้องวงจรปิดแบบเดิมอาจไม่เพียงพอที่จะรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้อีกต่อไป

i-PRO ในฐานะผู้นำด้านระบบเฝ้าระวัง วิดีโออัจฉริยะ ได้นำเสนอโซลูชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมที่อันตรายและมีความต้องการสูงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดของบุคลากรและทรัพย์สิน 

1. ความปลอดภัยและ Compliance คือหัวใจสำคัญ 
โซลูชันของ i-PRO มุ่งเน้นไปที่การยกระดับความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและกฎระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวด 

• การเฝ้าระวังพื้นที่อันตราย : กล้องของ i-PRO สามารถติดตั้งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น บริเวณเครื่องปฏิกรณ์ (Reactors), ถังเก็บสารเคมี, หรือระบบท่อส่ง เพื่อตรวจจับความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที 
  
  
• การตรวจจับเหตุการณ์เชิงรุก : ด้วยระบบ AI และ Video Analytics กล้องสามารถตรวจจับควัน, เปลวไฟ, หรือการรั่วไหลของของเหลวได้ในระยะเริ่มต้น ช่วยให้ทีมงานสามารถเข้าจัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว 
  
  
• การปฏิบัติตามกฎระเบียบ : การบันทึกภาพอย่างต่อเนื่องและแม่นยำจากกล้องช่วยให้สามารถตรวจสอบการปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยที่กำหนดไว้ และยังเป็นหลักฐานที่สำคัญสำหรับการตรวจสอบ (Audits) จากหน่วยงานภายนอก 
   
  

2. เทคโนโลยีกล้องที่ออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย 
สภาพแวดล้อมในโรงงานปิโตรเคมีนั้นรุนแรงและอันตราย ดังนั้นกล้องที่ใช้จึงต้องมีคุณสมบัติพิเศษที่เหนือกว่ากล้องทั่วไป 

• กล้องที่ป้องกันการระเบิด (Explosion-Proof Cameras) : กล้องของ i-PRO ที่ใช้ในพื้นที่อันตราย (Hazardous Locations) ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ก่อให้เกิดประกายไฟที่อาจจุดติดแก๊สหรือสารเคมีในอากาศได้ โดยมีการรับรองมาตรฐานสากล เช่น ATEX และ IECEx 
  
  
• ความทนทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิ : ตัวเรือนของกล้องผลิตจากวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมี, ฝุ่นละออง และสามารถทำงานได้ในอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำมากได้เป็นอย่างดี 
  
  
• คุณภาพของภาพขั้นสูง : กล้องให้ภาพความละเอียดสูงที่คมชัดแม้ในสภาวะแสงน้อย หรือในพื้นที่ที่มีความต่างของแสงมาก (WDR) ทำให้สามารถระบุรายละเอียดสำคัญในการตรวจสอบได้อย่างแม่นยำ 
   
  

3. พลังของการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ 
จุดแข็งของ i-PRO คือการเป็น Open Platform ที่พร้อมจะเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับระบบควบคุมและระบบการจัดการในโรงงานได้อย่างสมบูรณ์ 

• การผสานรวมกับระบบควบคุมหลัก : ระบบกล้องสามารถทำงานร่วมกับระบบควบคุมแบบกระจาย (DCS) หรือระบบควบคุมและติดตามข้อมูล (SCADA) ทำให้ผู้ควบคุมในห้องควบคุมสามารถเรียกดูภาพสดจากจุดต่างๆ ได้ทันทีเมื่อได้รับสัญญาณเตือนจากเซ็นเซอร์อื่นๆ 
  
  
• การแจ้งเตือนและการจัดการเหตุการณ์ : เมื่อระบบ AI ของกล้องตรวจจับความผิดปกติได้ เช่น ควันหรือเปลวไฟ ระบบจะส่งการแจ้งเตือนพร้อมภาพวิดีโอไปยังฝ่ายปฏิบัติการและทีมฉุกเฉินทันที ช่วยให้การตอบสนองรวดเร็วยิ่งขึ้น  
  
  
• การค้นหาเชิงนิติวิทยา : หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ซอฟต์แวร์สามารถช่วยให้ผู้ตรวจสอบค้นหาภาพวิดีโอที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต