ซื้อ UPS ทั้งที มีอะไรที่ควรรู้บ้าง ?
อัพเดทล่าสุด: 5 ส.ค. 2025
360 ผู้เข้าชม

ใน การเลือกซื้อ UPS นั้น นอกจากจะต้องทราบขนาดกำลังไฟฟ้า (Watts), VA และ ระยะเวลาสำรองไฟแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจเลือกซื้ออีกดังนี้
1. อุปกรณ์ไฟฟ้าที่นำมาต่อพ่วงกับ UPS
2. คุณภาพของระบบไฟฟ้า ในจุดที่เรานำ UPS ไปใช้งาน
3. ขนาดของกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ต่อพ่วงกับ UPS
4. ระยะเวลาที่ต้องการสำรองไฟ
6. ระยะเวลาในการรับประกัน
7. บริการหลังการขาย
สอบถาม-สั่งซื้อสินค้า
Tel :02-9344790
Line : @royaltec
Facebook : RoyaltecThailand
1. อุปกรณ์ไฟฟ้าที่นำมาต่อพ่วงกับ UPS
- ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการตอบสนองต่อคุณภาพของกระแสไฟฟ้าสูง เช่นอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูง และอุปกรณ์ Network Server เราควรเลือกใช้ UPS ที่เป็นเทคโนโลยีแบบ True On-Line Double Conversion
- หากเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป เช่น คอมพิวเตอร์ เร้าเตอร์ และปริ้ทน์เตอร์ เราสามารถเลือกใช้ UPS ที่เป็นเทคโนโลยีแบบ Line Interactive ก็เพียงพอแล้ว
2. คุณภาพของระบบไฟฟ้า ในจุดที่เรานำ UPS ไปใช้งาน
- เราควรเลือกใช้ UPS ที่เป็นเทคโนโลยีแบบ True On-Line Double Conversion ในสถานที่ ที่กระแสไฟฟ้ามีความแปรปรวนสูง เช่น จุดที่อยู่ใกล้กับแหล่งจ่ายไฟขนาดใหญ่
- แต่ถ้าเป็นคอนโดฯ หรือที่พักอาศัยทั่วไป ซึ่งมีความแปรปรวนของกระแสไฟฟ้าน้อย เราก็สามารถใช้ UPS แบบ Line Interactive ได้
3. ขนาดของกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ต่อพ่วงกับ UPS
- เราควรเลือกกำลังไฟฟ้าของ UPS ที่สูงกว่า อัตราการใช้ไฟของอุปกรณ์ต่อพ่วง หรือโหลด เช่น คอมพิวเตอร์ที่ใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 750 VA เราก็ควรเลือก UPS ที่มีขนาดมากกว่า 750VA ขึ้นไป และกำลังไฟฟ้าที่มากขึ้นก็หมายถึงเวลาในการสำรองไฟที่นานขึ้นด้วย
4. ระยะเวลาที่ต้องการสำรองไฟ
- สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านเรือนทั่วไป ระยะเวลาในการสำรองไฟนั้นควรอยู่ที่ประมาณ 5-10 นาที ส่วนอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ ควรเลือก UPS ที่สามารถสำรองไฟได้ 10-15 นาที
6. ระยะเวลาในการรับประกัน
7. บริการหลังการขาย
สอบถาม-สั่งซื้อสินค้า
Tel :02-9344790
Line : @royaltec
Facebook : RoyaltecThailand
บทความที่เกี่ยวข้อง
โลกดิจิทัลที่ไร้พรมแดนนำความสะดวกสบายมาให้เราอย่างมหาศาล แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน ภัยคุกคามไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของคนไอทีอีกต่อไป แต่มันแฝงตัวอยู่รอบๆ เราอย่างแนบเนียน ตั้งแต่การหลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง การรู้เท่าทันและคาดการณ์เทรนด์ Cyber Security ล่วงหน้าจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้เราทั้งในฐานะบุคคลและองค์กร สามารถเตรียมพร้อมรับมือและวางกลยุทธ์การป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่า 5 เทรนด์ความปลอดภัยไซเบอร์ในปี 2026 ที่เราต้องจับตามองมีอะไรบ้าง
เพอรอฟสไกต์ (Perovskite) วัสดุและนวัตกรรมใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตาอย่างมากในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะมันไม่ได้มาแค่เพื่อแข่งขัน แต่จะเข้ามา เปลี่ยนภาพจำ ของโซลาร์เซลล์แบบดั้งเดิมไปตลอดกาล !
ปี 2026 จะไม่ใช่แค่ปีแห่งการเริ่มต้น แต่จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทยจะเปลี่ยนไปตลอดกาล สิ่งนี้ไม่ได้กระทบแค่คนสาย Tech แต่กำลังจะเปลี่ยนวิถีการทำงานและการทำธุรกิจของพวกเราทุกคน


