แชร์

ส่องอนาคต "เทรนด์ Datacenter ไทย 2026" ทำไมยักษ์ใหญ่ทั่วโลกถึงแห่มาปักธงที่ไทย? และเราต้องปรับตัวอย่างไร?

อัพเดทล่าสุด: 26 พ.ย. 2025

87 ผู้เข้าชม

เคยสงสัยไหมครับว่า? ทำไมอยู่ดีๆ ประเทศไทยถึงกลายเป็น "พื้นที่ทองคำ" ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกต่างรุมจีบเพื่อเข้ามาสร้างฐานทัพข้อมูล หรือที่เราเรียกกันว่า Data Center?
ไม่ว่าจะเป็นข่าวการลงทุนหลักแสนล้านของ AWS, การประกาศตั้ง Cloud Region ของ Microsoft หรือแม้แต่ Google ที่ตบเท้าเข้ามาลงทุน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ แต่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ในปี 2026 ประเทศไทยกำลังจะก้าวขึ้นสู่การเป็น Digital Hub ของอาเซียน อย่างเต็มตัว
บทความนี้ เราจะพาคุณไปแกะรอย เทรนด์ Datacenter ไทย 2026 ว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ทำไมมันถึงสำคัญกับชีวิตของคุณ และโอกาสใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นมีอะไรบ้าง เพื่อให้คุณเตรียมตัวได้ก่อนใคร

ทำไมปี 2026 ถึงเป็นปีทองของ Datacenter ในไทย?

ต้องบอกก่อนว่า อุตสาหกรรม Data Center ในไทยไม่ได้เพิ่งมาบูม แต่มันสะสมพลังมาสักพักแล้ว และปี 2026 จะเป็นปีที่ "ดอกผลเริ่มผลิบาน" จากปัจจัยบวกหลายอย่างที่เราเห็นในวันนี้

1. ทำเลที่ตั้งคือ "จุดยุทธศาสตร์" (Strategic Location)

ไทยเรามีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์อย่างมหาศาล เราตั้งอยู่ใจกลางอาเซียน มีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค และที่สำคัญคือมีความเป็นกลาง (Neutrality) ในเวทีการเมืองโลก ทำให้บริษัทข้ามชาติมองว่าไทยเป็น "Safe Zone" ในการฝากข้อมูลสำคัญ เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีความเสี่ยงทางภัยธรรมชาติหรือความผันผวนทางการเมืองมากกว่า

2. นโยบาย Cloud First Policy ของภาครัฐ

รัฐบาลไทยตื่นตัวเรื่องนี้มาก การผลักดันนโยบาย "Cloud First Policy" ที่ส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐและเอกชนย้ายระบบขึ้นสู่ Cloud ทำให้ความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ให้บริการ Cloud Computing ระดับโลกต้องรีบเข้ามาสร้าง Infrastructure เพื่อรองรับ Demand ในประเทศ

เจาะลึก 3 เทรนด์ Datacenter ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าธุรกิจไทยในปี 2026

เมื่อโครงสร้างพื้นฐานพร้อม สิ่งที่จะตามมาคือ "นวัตกรรม" และนี่คือ 3 เทรนด์หลักที่คุณจะเห็นได้ชัดเจนในปี 2026

1. AI-Ready Data Center ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์

ปี 2026 จะไม่ใช่แค่การเก็บข้อมูล (Storage) ธรรมดาอีกต่อไป แต่จะเป็นยุคของ AI Infrastructure
เนื่องจากการเติบโตของ Generative AI (เช่น ChatGPT หรือ Claude ที่คุณกำลังคุยด้วยตอนนี้) ทำให้ Data Center ต้องอัปเกรดตัวเองให้รองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนและหนักหน่วงได้ เราจะเห็น Data Center รูปแบบใหม่ที่ใช้ชิปประมวลผลความเร็วสูง (High-Performance Computing) ผุดขึ้นมากมาย เพื่อรองรับการเทรน AI โมเดลภาษาไทย หรือ AI สำหรับภาคธุรกิจโดยเฉพาะ

รู้หรือไม่? คาดการณ์ว่าในปี 2026 ปริมาณข้อมูลในไทยจะเพิ่มขึ้นมหาศาลจากการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ระบบ Smart Home ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในธุรกิจ SME

2. Green Data Center ความยั่งยืนไม่ใช่ทางเลือก แต่คือทางรอด

เรื่องนี้สำคัญมาก! บริษัทระดับโลกมีเป้าหมาย Net Zero (ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์) ดังนั้น Data Center ที่พวกเขามองหา ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในปี 2026 เราจะเห็นมาตรฐานใหม่ของ Data Center ไทยที่เน้นเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) อย่างเข้มข้น เช่น

การใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งโซลาร์เซลล์หรือซื้อพลังงานหมุนเวียน
ระบบระบายความร้อนรูปแบบใหม่ เช่น Liquid Cooling (การระบายความร้อนด้วยของเหลว) ที่ประหยัดไฟกว่าระบบแอร์แบบเดิม
การจัดการ Carbon Footprint มีการวัดผลและลดการปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจัง

ใครที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด หรือเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน นี่คือโอกาสทองของคุณ

3. Edge Computing เร็ว แรง ทะลุพิกัด

เมื่อ 5G ครอบคลุมทั่วประเทศ และ IoT (Internet of Things) อยู่ในทุกอุปกรณ์ Data Center ขนาดใหญ่แบบรวมศูนย์ (Centralized) อาจจะไม่ตอบโจทย์เรื่องความเร็วอีกต่อไป

เทรนด์ปี 2026 จะมุ่งไปสู่ Edge Computing หรือการกระจายศูนย์ข้อมูลขนาดย่อมไปไว้ใกล้ผู้ใช้งานมากขึ้น (เช่น ตามหัวเมืองใหญ่ หรือนิคมอุตสาหกรรม) เพื่อให้การรับส่งข้อมูลรวดเร็วระดับเสี้ยววินาที รองรับเทคโนโลยีอย่าง รถยนต์ไร้คนขับ หรือ การผ่าตัดทางไกล ได้อย่างแม่นยำ

สิ่งที่คุณต้องเตรียมตัว ในยุค Data Center เฟื่องฟู

อ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจจะถามว่า "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันละ? คำตอบคือ "เกี่ยวเต็มๆ " เพราะเม็ดเงินลงทุนมหาศาลนี้จะกระจายลงสู่ระบบเศรษฐกิจและสร้างโอกาสใหม่ๆ ดังนี้

ตลาดงานสาย Tech จะเดือดมาก

ความต้องการบุคลากรที่มีทักษะด้าน Cloud Engineering, Cybersecurity, AI Specialist และ Data Center Operations จะพุ่งสูงจนขาดแคลน (Talent Shortage) ค่าตอบแทนของสายงานเหล่านี้จะสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ หากคุณหรือลูกหลานกำลังมองหาทิศทางการเรียนหรือ Upskill นี่คือสายงานที่การันตีอนาคตในปี 2026

โอกาสทองของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

การสร้าง Data Center ไม่ใช่แค่เรื่องไอที แต่ต้องใช้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมาตรฐานสูง ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และนิคมอุตสาหกรรม จะได้รับอานิสงส์จากการลงทุนนี้โดยตรง รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ระบบรักษาความปลอดภัย และระบบดับเพลิง

SME ไทยจะเข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกได้ง่ายขึ้น

เมื่อ Cloud Provider มาตั้งเซิร์ฟเวอร์ในไทย ราคาค่าบริการ Cloud มีแนวโน้มจะแข่งขันกันดุเดือดขึ้น ทำให้ SME ไทยเข้าถึงเทคโนโลยีระดับ Enterprise ได้ในราคาที่จับต้องได้ แถมยังได้ความเร็ว (Latency) ที่ดีขึ้นเพราะเซิร์ฟเวอร์อยู่ในประเทศ ช่วยให้ Startup ไทยสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น

ก้าวต่อไปของไทยในปี 2026

ภาพรวมของ เทรนด์ Datacenter ไทย 2026 คือภาพของการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เรากำลังเปลี่ยนผ่านจากผู้ใช้งาน (User) ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการและศูนย์กลาง (Hub) ของภูมิภาค

การเข้ามาของเงินลงทุนก้อนโตไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข GDP แต่เป็นสัญญาณบอกว่า โครงสร้างพื้นฐานของประเทศกำลังยกระดับ เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจ นักลงทุน หรือคนทำงาน การตื่นตัวและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีเหล่านี้ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้คุณไม่ตกขบวนรถไฟความเร็วสูงขบวนนี้
คุณพร้อมหรือยังที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้?

Royaltec ในฐานะ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย สินค้า ในกลุ่ม Datacenter คุณภาพสูง เรามีบริการทั้ง สินค้าและบริการให้คำปรึกษาในโซลูชั่นเกี่ยวกับ Datacenter

หากคุณต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าและโซลูชั่น Datacenter สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> IT Infrastructure Solutions << หรือติดต่อมาได้ที่

โทร 02-9344790
Line : @royaltec หรือ https://lin.ee/AwYkey4
Facebook : Royaltec Thailand
www.royaltec.com

Tags :