แชร์

มาตราฐานท่อเหล็กร้อยสายไฟที่ดี ควรมีอะไรบ้าง???

อัพเดทล่าสุด: 5 ส.ค. 2025
16 ผู้เข้าชม
มาตราฐานท่อเหล็กร้อยสายไฟที่ดี ควรมีอะไรบ้าง???

ท่อเหล็กร้อยสายไฟคืออะไร
ท่อเหล็กร้อยสายไฟ เป็น ท่อที่ตีขึ้นจากแผ่นเหล็กกล้าซ้อนกัน แล้วขึ้นรูปให้กลายเป็นท่อเหล็ก และเชื่อมให้ผิวภายนอกกับภายในเสมอกัน ด้วยกระบวนการขูดตะเข็บภายในโดยเครื่องมือที่ออกแบบเป็นพิเศษ จากนั้น นำมาชุบด้วยสังกะสี ซึ่งมี 2 วิธี

ได้แก่

  1. กระบวนการชุบสังกะสีแบบจุมร้อนทั้งภายนอกและภายใน (ชุบแบบหนา)
  2. กระบวนการชุบสังกะสีด้วยวิธีชุบไฟฟ้า (ชุบแบบบาง)



ทำให้มีคุณสมบัติ ดัดง่ายและเที่ยงตรง ง่ายต่อการร้อยสายไฟ และทนทานต่อการกัดกร่อน ซึ่งท่อเหล็กของ RSI เป็นท่อเหล็กที่ชุบสังกะสี ผ่านกระบวนการชุบเท่านั้น ไม่มีการฉีดพ่น หรือ นำแผ่นสังกะสีมาเคลือบทับในกระบวนการผลิต ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพ และความคงทนของท่อเหล็กได้ยาวนานกว่า30ปี

ประเภทท่อเหล็กร้อยสายไฟ
ท่อเหล็กร้อยสายไฟ แบ่ง ออกเป็น 3ประเภทหลักๆ แยกตามการใช้งาน ได้แก่

1.EMT ท่อเหล็กร้อยสายไฟ ผนังท่อบาง ปลายเรียบ                                                                                                                        AMERICAN STANDARD ELECTRICAL METALLIC TUBING ANSI C80.3-1983

เป็น ท่อเหล็กร้อยสายไฟที่มีขนาดผนังท่อบางที่สุด โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกตั้งแต่ 0.706 2.197 นิ้ว ภายใน 17.9 55.8     มม. ขึ้นอยู่กับขนาดของท่อ ซึ่งท่อ EMT จะมีความหนาของผนังที่เป็นแผ่นเหล็กอยู่ที่ 1.07 1.65 มม. มวลต่ำสุดที่ยอมรับได้     
     
อยู่ที่ 0.285 1.400 ปอนด์ / ฟุต ไม่มีการตีเกลียวที่ปลายทั้งสองด้าน บนตัวท่อจะสกรีนอักษรสีเขียว  ซึ่งเหมาะสมสำหรับเดินสายไฟภายในอาคาร เดินสายบนฝ้า เพดาน มีมาตราฐานชุบสังกะสีทั้งแบบบางและหนาท่อร้อยสายไฟภายในอาคาร RSI / EMT

ท่อร้อยสายไฟภายในอาคาร RSI / EMT

2. IMC ท่อเหล็กร้อยสายไฟ ผนังท่อหนาปานกลาง ต่อด้วยเกลียว                                                                                                         INTERMEDIATE METAL CONDUIT UL 1242-1983

เป็นท่อเหล็กร้อยสายไฟที่มีความหนาผนังท่อในระดับกลาง

โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกตั้งแต่ 20.7 113.4 มม.  ขึ้นอยู่กับขนาดของท่อ ซึ่งท่อ IMC จะมีความหนาของผนังที่เป็นแผ่นเหล็กอยู่ที่ 1.79 3.61 มม. มวลต่ำสุดที่ยอมรับได้ของท่อรวมข้อต่อ อยู่ที่  25.4 296.1 กก. / ม. ตีเกลียวที่ปลายทั้งสองด้าน ซึ่งเหมาะสมสำหรับเดินสายไฟในผนัง เสา ที่มีความทึบ หรืออยู่ชิดขอบอาคาร บนตัวท่อจะสกรีนอักษรสีส้ม มีมาตราฐานชุบสังกะสีทั้งแบบบางและหนา

ท่อร้อยสายไฟขนาดกลาง RSI /IMC
 
3. RSC ท่อเหล็กร้อยสายไฟ ผนังท่อหนา ต่อด้วยเกลียว
AMERICAN STANDARD RIGID STEEL CONDUIT , ZINC COATED ANSI C80.1-1983

เป็นท่อเหล็กร้อยสายไฟที่มีความหนาผนังท่อหนาที่สุดโดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกตั้งแต่ 21.3 168 มม. ภายใน 16.1 154.8 มม.  ขึ้นอยู่กับขนาดของท่อ ซึ่งท่อ RSC จะมีความหนาของผนังที่เป็นแผ่นเหล็กอยู่ที่ 2.64 6.76 มม. มวลต่ำสุดที่ยอมรับได้ของท่อรวมข้อต่อ อยู่ที่  35.83 791.67 กก. / ม. ตีเกลียวที่ปลายทั้งสองด้าน ซึ่งเหมาะสมสำหรับเดินสายไฟนอกอาคาร เพราะมีความแข็งแรงทนทานมากที่สุด บนตัวท่อจะสกรีนอักษรสีดำ   มีมาตราฐานชุบสังกะสีทั้งแบบบางและหนา
ท่อร้อยสายไฟภายนอกอาคาร RSI/ RSC
 
วิธีชุบสังกะสี
ท่อเหล็กร้อยสายไฟนอกจากจะผลิตจากแผ่นเหล็กกล้าตีขึ้นรูปจนผ่านกระบวนการมาเป็นท่อแล้ว ยังต้องนำไป ชุบหรือเคลือบด้วยสังกะสี เพื่อความแข็งแรงทนทาน ป้องกันการกัดกร่อน ซึ่งท่อเหล็กแบรนด์ RSI เป็นเพียงยี่ห่อเดียวในประเทศที่มีกระบวนกวนการผลิตแบบบ่อร้อนสังกะสีขนาดใหญ่ ทำให้สามารถชุบสังกะสีทั้งภายนอกและภายในตัวท่อได้แบบ100% โดยวิธีการชุบจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ตามมาตราฐานดังนี้

1.การจุ่มร้อน (Hot-Dipped Galvanized)
เป็นการชุบสังกะสีแบบหนา โดยมีมาตราฐานความหนาของเนื้อสังกะสีบนตัวท่ออยู่ที่ >66.04 micron ขึ้นไป


2.การชุบด้วยกระบวนการไฟฟ้า (Electro Glavanized /Pre Galvanized )
เป็นการชุบสังกะสีแบบบาง โดยมีมาตราฐานความหนาของเนื้อสังกะสีบนตัวท่ออยู่ที่ 20 micron ขึ้นไป
 

 

 

 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
Hybrid Wi-Fi6 Solution from Allied Telesis
ความก้าวหน้าใหม่ล่าสุดในเทคโนโลยีไร้สาย มีความยืดหยุ่นและความคุ้มค่าที่องค์กรต้องการเพื่อตอบสนองความท้าทายทุกสภาพแวดล้อมของอุปกรณ์ IoT และ BYOD ในอุตสาหกรรมยุคใหม่
5 ส.ค. 2025
การใช้งาน Wi-Fi ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
การปรับใช้ Wi-Fi ต้องจัดการกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายขึ้นอยู่กับองค์กร องค์กรอุตสาหกรรมจัดการกับแหล่งข้อมูลจำนวนมากที่สร้างปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่และสตรีมที่มีอัตราการใช้งานสูงมาก เครือข่ายเหล่านี้ต้องการมาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุดที่ให้ความเร็วสูงขึ้นช่วงที่ยาวขึ้น
5 ส.ค. 2025
การใช้งานข้ามห้องอย่างราบรื่นด้วยสถาปัตยกรรม Single Channel
ในสถาปัตยกรรม Single Channel (SCA) ระบบไร้สายจะควบคุม WLAN และตัดสินความสัมพันธ์ระหว่างช่องทางไคลเอ็นต์และปัจจัยการใช้งานข้ามหน่วย ลูกค้าเห็นว่าเครือข่ายทั้งหมดเป็นจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi จุดเดียวซึ่งพวกเขาเห็นว่าเป็นรหัสชุดบริการพื้นฐาน (BSSID) เดียว จุดเข้าใช้งานให้ความร่วมมือในการเลือก AP ที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละราย และผู้ใช้จะไม่ทราบการเชื่อมต่อใหม่ใดๆ สิ่งนี้เข้ามาแก้ปัญหาในการโรมมิ่งของ MCA หลายประการ: ไคลเอนต์ไร้สายทั้งหมดเชื่อมต่อบน Single Channel และจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั้งหมดใช้ BSSID เดียวกันซึ่งทำให้การโรมมิ่งง่ายขึ้นอย่างมาก
5 ส.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่.. นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy