ทริคจัดการเวลายุคใหม่ เน้นคุณภาพ ไม่กดดัน
อัพเดทล่าสุด: 5 ส.ค. 2025
16 ผู้เข้าชม
โลกยุคนี้ เวลาคือสิ่งล้ำค่า! หลายคนพยายามหาเทคนิคจัดการเวลา แต่ลืมไปว่า "คุณภาพ" สำคัญกว่า "จำนวนเวลาที่ใช้ วันนี้เรามีทริคดีๆ ที่จะช่วยให้เพื่อนๆ บริหารจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพพร้อมๆกับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกัน
ที่มา : Facebook Mission Academy
- เลือกทำงานสำคัญก่อน เราควรประเมินความสำคัญของงานที่มีอยู่ในแต่ละวัน โดยพิจารณาจากผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น และให้ทำงานที่มีความสำคัญหรือเป็นงานที่ยากก่อนในช่วงเช้าของแต่ละวัน เพื่อให้เราสามารถใช้พลังงานที่ยังมีอยู่เต็มเปี่ยมไปกับการโฟกัสสิ่งที่สำคัญ เมื่อเราทำงานที่สำคัญเหล่านี้เสร็จแล้ว ทั้งวันที่เหลือก็ไม่มีอะไรให้เราต้องห่วงอีกต่อไป หรือเราจะวางแผนงานสำคัญนั้นไว้ในช่วงที่เราทำงานได้ดีที่สุดของวันก็ได้
- จำกัดเวลาสำหรับแต่ละงาน โดยการตั้ง Deadline ให้กับแต่ละงานที่เราต้องทำ ซึ่งเราควรประเมินเวลาให้เหมาะสมกับความยากง่ายของแต่ละงาน ซึ่งเราอาจจะใช้เทคนิคการทำ Time Blocking หรือ Promodo ก็ได้ เพราะคนเรามักจะขยายเวลาการทำงานออกไปเรื่อยๆ ถ้าเรารู้สึกว่ายังมีเวลาอยู่ ทำให้งานที่ควรเสร็จไปแล้วยังไม่เสร็จสักที
- หาช่วงเวลาที่ทำงานได้ดีที่สุด ในแต่ละวัน เราจะไม่สามารถที่จะ Productive ได้ทั้งวัน จะมีช่วงเวลาที่เราสามารถทำงานได้ดีและมีสมาธิที่สุด กับช่วงเวลาอื่นๆที่ความ Productive ของเราจะลดลงไป ซึ่งเราควรจัดตารางให้งานสำคัญอยู่ในช่วงเวลาที่เราสามารถทำงานได้ดีที่สุดนั่นเอง
- ลดการทำงานแบบ Multitasking การทำงานหลายๆงานพร้อมกัน ทำให้เราสูญเสียการโฟกัส เพิ่มความเครียดและความผิดพลาดใหม่มากขึ้น จนเราทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง เนื่องจากเราจะเสียเวลากับการต้องเปลี่ยความสนใจไปมา ดังนั้นเราจึงควรโฟกัสงานให้เสร็จเป็นชิ้นๆไป ซึ่งจะทำให้เราทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 40% เลยทีเดียว
- กำจัดสิ่งรบกวน เช่นเดียวกับการทำงานหลายๆอย่างพร้อมกัน เพราะเมื่อเราต้องเปลี่ยนความสนใจตลอดเวลาทำให้สมองของเราเหนื่อยล้าเร็วขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องกำจัดสิงที่จะมารบกวนเราในเวลาทำงานไม่ว่าจะเป็น เสียงแจ้งเตือนต่างๆ เสียงสัตว์เลี้ยงที่บ้านหรือเพื่อร่วมงานโต๊ะข้างๆ
- ฝึกปฏิเสธบ้าง ในแต่ละวันเราอาจจะมีงานที่เข้ามาแทรกแผนงานที่เราวางไว้ตลอดเวลา แต่เราไม่จำเป็นต้องรับทุกอย่างที่เข้ามา เพื่อรักษาเวลาของตัวเองไว้ แต่สำหรับบางคนที่การปฏิเสธเป็นเรื่องยาก การพูดคุยหาทางออกร่วมกันก็เป็นตัวเลือกที่ดี
- ชั่งน้ำหนักผลลัพธ์ ทุกวันเรามีเรื่องให้ต้องตัดสินใจมากมายว่า จะทำหรือไม่ทำอะไร ซึ่งก่อนที่เราเลือกเราควรคิดถึงผลลัพธ์ของสิ่งที่จะตามมาก หากเราไม่ทำแล้วรู้สึกว่าผลลัพธ์นั้นไม่ได้ส่งผลที่ร้ายแรงหรือทำให้ตัวเองผิดหวังในอนาคต เราก็ควรจะปล่อยวางในสิ่งที่ไม่สำคัญนั้นไป แล้วเราจะเข้าใจว่าสิ่งที่สำคัญกับเราจริงๆนั้นคืออะไร
- ผัดวันประกันพรุ่งบ้างก็ได้ จริงอยู่ที่การผัดวันประกันพรุ่งไม่ใช่เรื่องดี แต่ บางครั้ง การที่เรารู้สึกอยากผัดวันประกันพรุ่งเป็นสัญญาณที่ร่างกายของเรากำลังบอกว่า ตัวเราตอนนี้กำลังล้าเกินไปแล้วก็เป็นได้ ซึ่งเราควรให้สมองและร่างกายของเราได้พักบ้าง
- ทบทวนตัวเอง ถ้าเราพบว่าเราไม่กะตือรือร้นกับงานที่ทำหรือเป้าหมายบางอย่างแล้วอาจะเป็นสัญญาณที่เราต้องมาทบทวนตัวเอง ว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นยังคงเป็นสิ่งที่เราชอบหรือไม่ หรือลึกๆตัวเรากำลังต้องการ การเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ซึ่งเราไม่ควรยึดติดกับอดีตหรือสิ่งที่ลงแรงทำลงไปแล้ว เพราะเวลา นั้นมีค่ามากกว่าการที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
ที่มา : Facebook Mission Academy
บทความที่เกี่ยวข้อง
ความก้าวหน้าใหม่ล่าสุดในเทคโนโลยีไร้สาย มีความยืดหยุ่นและความคุ้มค่าที่องค์กรต้องการเพื่อตอบสนองความท้าทายทุกสภาพแวดล้อมของอุปกรณ์ IoT และ BYOD ในอุตสาหกรรมยุคใหม่
5 ส.ค. 2025
การปรับใช้ Wi-Fi ต้องจัดการกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายขึ้นอยู่กับองค์กร องค์กรอุตสาหกรรมจัดการกับแหล่งข้อมูลจำนวนมากที่สร้างปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่และสตรีมที่มีอัตราการใช้งานสูงมาก เครือข่ายเหล่านี้ต้องการมาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุดที่ให้ความเร็วสูงขึ้นช่วงที่ยาวขึ้น
5 ส.ค. 2025
ในสถาปัตยกรรม Single Channel (SCA) ระบบไร้สายจะควบคุม WLAN และตัดสินความสัมพันธ์ระหว่างช่องทางไคลเอ็นต์และปัจจัยการใช้งานข้ามหน่วย ลูกค้าเห็นว่าเครือข่ายทั้งหมดเป็นจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi จุดเดียวซึ่งพวกเขาเห็นว่าเป็นรหัสชุดบริการพื้นฐาน (BSSID) เดียว จุดเข้าใช้งานให้ความร่วมมือในการเลือก AP ที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละราย และผู้ใช้จะไม่ทราบการเชื่อมต่อใหม่ใดๆ สิ่งนี้เข้ามาแก้ปัญหาในการโรมมิ่งของ MCA หลายประการ: ไคลเอนต์ไร้สายทั้งหมดเชื่อมต่อบน Single Channel และจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั้งหมดใช้ BSSID เดียวกันซึ่งทำให้การโรมมิ่งง่ายขึ้นอย่างมาก
5 ส.ค. 2025