Hirschmann ยกระดับเครือข่ายอุตสาหกรรมปิโตรเคมีสู่มาตรฐานโลก

Hirschmann ยกระดับเครือข่ายอุตสาหกรรมปิโตรเคมีสู่มาตรฐานโลก
ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ทุกวินาทีของการดำเนินงานมีค่า การหยุดทำงานแม้เพียงเสี้ยววินาทีอาจหมายถึงความสูญเสียมหาศาล โรงงานปิโตรเคมีแห่งหนึ่งในแคนาดา จึงเริ่มต้นโครงการซ่อมบำรุงเครือข่ายเล็ก ๆ แต่กลับพัฒนาไปสู่ โซลูชันเครือข่ายครบวงจร ที่ช่วยเสริมศักยภาพและความยั่งยืนของการผลิต
โรงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทสำรวจและผลิตน้ำมันอิสระขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ให้บริการใน 13 ประเทศ โดยเน้นการผลิตพลังงานอย่างรับผิดชอบและปลอดภัย การขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วย อัตโนมัติและดิจิทัล ผ่าน IoT, AI และ Machine Learning ทำให้พนักงานกว่า 9,700 คน สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญแบบเรียลไทม์ เพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำ
จุดเริ่มต้นและความท้าทาย
เครือข่ายเดิมเป็นระบบผสมผู้จำหน่าย (Mixed-Vendor) ซึ่งประสบปัญหาฝุ่น ความร้อน และปัญหาไฟฟ้า ทำให้สวิตช์ล้มเหลวก่อนเวลาอันควร ส่งผลต่อประสิทธิภาพการผลิต ทีมงานจึงต้องการอัปเกรดอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม
หลังจากประเมินหลายตัวเลือก พบว่า อุปกรณ์ Hirschmann เหมาะสมที่สุดสำหรับรองรับความร้อน ความชื้น และสภาวะแวดล้อมรุนแรง พร้อมทั้งเพิ่มความเชื่อถือได้และความปลอดภัยของระบบ
การประเมินและการวางแผนเชิงกลยุทธ์
Belden ร่วมกับโรงงานวางแผนเชิงกลยุทธ์โดยเริ่มจาก การประเมินเครือข่ายเชิงลึก
- ตรวจสอบสวิตช์และอุปกรณ์ทั้งหมด
- ระบุปัญหาการกำหนดค่า (Misconfiguration)
- ตรวจสอบอุปกรณ์ที่หมดอายุ (EOL) เพื่ออัปเกรดให้สอดคล้องนโยบายไซเบอร์ซีเคียวริตี้
หลังจากนั้น ทีมงานจัดทำ รายงานสรุปสถาปัตยกรรมเครือข่ายและ roadmap การปรับปรุง พร้อมแนะนำวิธีการลดความซับซ้อนของระบบ ด้วยการรวมผู้จำหน่ายหลายรายให้เหลือหนึ่งเดียว ลดรุ่นอุปกรณ์จาก 24+ เหลือ 4 รุ่น
นอกจากนี้ Belden ยังให้การอบรมด้าน Industrial Ethernet กับวิศวกรของโรงงาน เพื่อสร้างความเข้าใจในแนวทางการออกแบบเครือข่าย OT ที่ถูกต้อง
โซลูชัน Hirschmann แบบครบวงจร
- โครงการนี้ไม่เพียงแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ แต่เป็นการ ปรับสถาปัตยกรรมBelden กับบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas Solutions) พลิกโฉมการผลิตพลังงานด้วยโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายอัจฉริยะที่เชื่อถือได้
- อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซเป็นระบบที่ซับซ้อนและมีความท้าทายสูง ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมรุนแรง เช่น อุณหภูมิสูง ความดันสูง สารเคมี และการกัดกร่อนจากสภาพอากาศและน้ำทะเล ดังนั้น ความเสถียรของระบบเครือข่าย การสื่อสาร และความปลอดภัยของข้อมูล จึงเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
1. Belden: พันธมิตรด้านโครงข่ายสื่อสารของอุตสาหกรรมพลังงาน
Belden และผลิตภัณฑ์ในเครือ เช่น Hirschmann, Tofino Security และ Tripwire สร้างระบบเครือข่ายครอบคลุมตั้งแต่ระดับ Wellhead จนถึง Control Center เพื่อให้การสื่อสารของทุกอุปกรณ์เกิดขึ้นอย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง
ระบบที่รองรับ ได้แก่ Industrial Ethernet, Fiber Optic Backbone, Wireless LAN และ Network Access Control ออกแบบให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมรุนแรงทั้งในและนอกชายฝั่ง
2. ความสำคัญของระบบ Redundancy: ป้องกันการหยุดชะงักของการผลิต
การหยุดทำงานแม้เพียงไม่กี่นาทีอาจสร้างความเสียหายมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ Network Redundancy จึงเป็นสิ่งจำเป็น
Belden มีโซลูชันให้เครือข่ายสามารถสลับเส้นทางการสื่อสารอัตโนมัติภายในมิลลิวินาที เช่น
- Media Redundancy Protocol (MRP)
- Parallel Redundancy Protocol (PRP)
- HiPER-Ring และ Subring Topology
เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลสำคัญ เช่น การควบคุมแรงดัน ก๊าซ และระบบปั๊ม ทำงานต่อเนื่องแม้เกิดความเสียหายบางส่วน
3. Industrial Switches: หัวใจของ Offshore Platform
แท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งต้องการเครือข่ายเสถียรเพื่อรองรับระบบควบคุมและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
Hirschmann Industrial Switches ผ่านมาตรฐาน DNV, GL และ IEC-62443 รองรับสภาวะอุณหภูมิสูง ความชื้น การสั่นสะเทือน และการกัดกร่อนจากน้ำทะเล พร้อม Anti-corrosion Coating
คุณสมบัติเด่น
- รองรับ Redundant Power Supply และ Wide Voltage Range
- การสื่อสารแบบ Real-Time (<100 ms latency)
- รองรับโปรโตคอลอุตสาหกรรม เช่น PROFINET, OPC-UA, IEC-61850
- รองรับ VLAN เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
4. Industrial Cables: พื้นฐานแห่งความเสถียร
มากกว่า 70% ของปัญหาการส่งสัญญาณเกิดจากสายเคเบิลที่ไม่เหมาะสม Belden จึงพัฒนาสายเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม Oil & Gas ได้แก่
Control & Instrumentation Cable
- VFD Cable สำหรับมอเตอร์ควบคุมรอบ
- Industrial Ethernet & Fiber Optic Cable
- Armored & Fire-Resistant Cable
คุณสมบัติเด่น
- ทนแรงดัน อุณหภูมิ และสารเคมี
- ผ่านมาตรฐาน UL Oil Resistant I/II และ Marine Certifications (ABS, DNV)
- ใช้เทคโนโลยี Bonded-Pair ลดการรบกวนสัญญาณ
- มีฉนวนหลายชนิด เช่น PVC, TPE, XLPE, LSZH
5. การบูรณาการระบบครบวงจร: จาก Wellhead สู่ Control Center
Belden และ Hirschmann วางระบบ End-to-End Communication Infrastructure ครอบคลุม
- Wellhead Monitoring & Control ตรวจสอบแรงดันและการผลิตเรียลไทม์
- Pipeline Transmission ตรวจจับการรั่วไหลและควบคุมแรงดัน
- Refinery Operations ควบคุมกระบวนการกลั่นน้ำมัน
- Offshore & Subsea Systems สื่อสารระหว่างแท่นและศูนย์ควบคุม
6. Cybersecurity & Data Integrity
Belden รวมเทคโนโลยี Tofino Security และ Tripwire เพื่อป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์
- Tofino Xenon Firewall ป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์
- Tripwire ตรวจจับความผิดปกติและแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ เครือข่ายทั้งโรงงาน
- อัปเกรด backbone เป็น 1Gb/s หรือ 2.5Gb/s
- รวมสวิตช์และอุปกรณ์ต่างรุ่นเป็นระบบเดียว
- ใช้สวิตช์ BRS/GRS และอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มความทนทาน
- ติดตั้งระบบ pre-configured เพื่อย้ายไปใช้ HiOS Firmware
ผลลัพธ์และความสำเร็จ
- การลงทุนคืนทุนภายใน 18 เดือน
- ROI เป็นตัวเลขสองหลัก
- ระบบเครือข่ายรองรับการขยายตัวและโครงการดิจิทัลในอนาคต
- เพิ่มความเสถียร ความปลอดภัย และลดความซับซ้อนของการจัดการเครือข่าย
มุ่งเน้นธุรกิจหลักได้เต็มที่ ทั้งการค้นหาและส่งมอบพลังงานให้โลกอย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง